ศูนย์กลางแปลเอกสารไทยเยอรมันเต็มเม็ดเต็มหน่วยวงจร

ศูนย์รวมการถอดความหมายเอกสารพร้อมทั้งการล่ามภาษาเยอรมัน thaieurovisa.com  ให้บริการรับแปลเอกสารภาษาเยอรมันเป็นภาษาไทย กับภาษาไทยเป็นภาษาเยอรมัน ด้วยบริการกว้างขวางทั่วโลก ทะลวงระเบียบอีเมล์อินเตอร์เน็ตพร้อมด้วยไปรษณีย์ในไทยพร้อมกับต่างแดน พร้อมกับค้ำประกันการถอดความหมายเอกสารโดยมืออาชีพศาล ผู้รู้กฎหมาย สถานทูต กรมการกงสุล กระทรวงต่างประเทศ และนักถอดความหมายถ้อยคำผู้ได้รับยินยอม (certified translator)

ทีมงานของเรา ประกอบด้วย ผู้มีวิสัยภาษาเยอรมันที่ผ่านการต่อสู้พร้อมทั้งฝึก เพื่อรองกับลูกค้าทุกระดับชั้น ส่งมอบคุณภาพงานบริการตามราคาที่สมเหตุสมผล ให้บริการแปลเอกสารภาษาเยอรมันทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็น การแปลความเอกสารสัญญาธุรกิจ, การแปลสิ่งพิมพ์คัมภีร์ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม,  การแปลความหมายสิ่งพิมพ์ด้านวิชาวิทยาศาสตร์ด้วยกันเทคโนโลยี, การถอดความสิ่งพิมพ์ด้านรถพร้อมกับวิศวกรรม, การแปลความงานพิมพ์งบการเงินบริษัท, การตีความสิ่งพิมพ์ราชการเพื่อการเรียนต่อ, การถอดความสิ่งพิมพ์ราชการเพื่อการเป็นฝั่งเป็นฝา, การตีความเอกสารราชการเพื่อการทำงานต่างบ้านต่างเมือง, การถ่ายความหมายงานพิมพ์คู่มือการใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์, การถอดความหมายเอกสารทางการแพทย์, ถ่ายความหมายงานพิมพ์เพื่อโรงงานอุตสาหกรรม, เกณฑ์คุณค่า ISO ฯลฯ

thaieurovisa  รวมถึงยังให้บริการล่ามภาษาเยอรมันทุกสาขาภารกิจ เป็นต้นว่า ล่ามภาษาเยอรมัน-ไทยแบบเมื่อนั้นในที่หารือนานาชาติ, ล่ามภาษาเยอรมัน-ไทยแบบไล่ตามตัว, ล่ามภาษาเยอรมันที่จับกลุ่มคณะกรรมการบริหารของบริษัทฯ, ล่ามภาษาเยอรมัน-ไทยงานแสดงของซื้อของขายนานาประเทศ ด้วยกันล่ามผู้ประกาศภาษาเยอรมันบนเวที

thaieurovisa  เป็นแห่งกับที่อยู่ค้นนักถอดความหมายเอกสารพร้อมทั้งล่ามภาษาเยอรมันคุณลักษณะที่ผ่านการคัดเป็นอันดี หากท่านผู้ใช้กำลังถามตนเองว่า จำต้องหาที่ตีความสิ่งพิมพ์ภาษาเยอรัมนที่ไหนดี โปรดนึกถึงเรา ไว้เป็นหนึ่งตัวคัดเลือกเทียม

thaieurovisa ยังให้บริการตลอดยิ่งขึ้น ด้วยว่าการแปลความวิดีโอจากภาษาเยอรมันเป็นไทยพร้อมด้วยจากภาษาไทยเป็นภาษาเยอรมัน พร้อมทั้งการทำซับไตเติ้ลภาษาไทย เหตุด้วยทุกสาขาย่อยอาชีพ ด้วยไฟล์งานคุณลักษณะระดับ Full HD หรือ Blu-ray เกี่ยวกับงานภาพยนตร์, สารคดี, รายการทีวี, วิดีโอเสนอแนะสินค้า ฯลฯ

thaieurovisa ยังคงไม่ยับยั้งการร ชดเชยความต้องการของลูกค้า เพราะเรา ยังขยายให้บริการกว้างขวางถึง การพากย์เสียงและอัดเสียงเป็นภาษาเยอรมันด้วย Native Speaker (เจ้าของภาษา) สัญชาติเยอรมัน  ด้วยงานวิดีโอแนะนำสินค้า, สารคดี, ตำราหนังสือเรียนภาษาเยอรมีน, ตำราผลิตภัณฑ์ ฯลฯ

thaieurovisa หวังให้ผู้บริโภคแน่ใจได้มากว่า การแปลเอกสารไทยเยอรมันของเราจะมีคุณภาพแทงใจผู้ซื้อ พอควรกับงบของผู้ซื้อที่เสียไป

ฉลากเครื่องสำอางออร์แกนิคที่ควรรู้

เชื่อว่าสาวๆจำนวนไม่น้อยที่เป็นกังวลใจอยู่ในขณะนี้ว่า เอ้ ไอ้เครื่องสำอางออร์แกนิคที่ตัวเองใช้อยุ่นั้นเป็นเครื่องสำอางออร์แกนิคแท้ หรือของปลอม   อย่ากังวลใจไปเลยค่ะ  วันนี้ http://www.nealsyardremedies.co.th/ เราจะพาเพื่อนๆมาตรวจเช็คกันว่าเครื่องสำอางออร์แกนิคที่เพื่อนๆใช้อยู่นั้นเป็นของปลอมหรือป่าว และทางเรายังแถมความรู้เรื่องคำศัพท์ที่พบบ่อยในผลิตภัณฑ์เสริมความงาม  มาให้เพื่อนๆสังเกตดูกันด้วยค่ะ

ปกติฉลากเครื่องสำอางออร์แกนิคที่ผ่านการควบคุมจาก อย.แล้วจะต้องระบุข้อความเหล่านี้เป็นภาษาไทยไว้บนฉลาก ได้แก่

– ชื่อเครื่องสำอางและ/หรือชื่อทางการค้า

– ประเภทหรือชนิดของเครื่องสำอาง

– ชื่อส่วนประกอบที่สำคัญ

– ชื่อและที่ตั้งของผู้ผลิต ถ้านำเข้าจะต้องแสดงชื่อผู้ผลิตและประเทศที่ผลิต

– วัน เดือน ปีที่ผลิต เช่น Manufactured ตามด้วยตัวเลขบอกวัน เดือน ปีที่ผลิต หรือวันหมดอายุ เช่น Best Before หรือ Used Before ตามด้วยวัน เดือน ปีที่หมดอายุไว้ด้วย

– วิธีใช้และคำเตือน

– ปริมาณสุทธิ

คำศัพท์ที่พบบ่อยในผลิตภัณฑ์เสริมความงาม

๐ Antioxidant = สารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องและลบเลือนริ้วรอย

๐ Non-Comedogenic = ไม่มีส่วนผสมที่ทำให้รูขุมขนอุดตันอันเป็นสาเหตุของสิว

๐ Clinically Proven = ผ่านการทดสอบจากคลินิกของเครื่องสำอางยี่ห้อนั้นๆ มาแล้ว

๐ Dermatologist-Tested = ผ่านการทดสอบจากแพทย์ผิวหนังแล้ว

๐ Hypo-Allergenic = มีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการแพ้ได้น้อย จึงเหมาะสำหรับผู้มีผิวแพ้ง่าย

๐ Retinol A = ส่วนผสมที่ช่วยลบเลือนริ้วรอยร่องลึก

หลักการถ่ายภาพ phuket photographer

อย่างแรกคือต้องมีการตั้งช่องรับแสง / ความเร็วชัตเตอร์ เพราะว่าการถ่ายภาพ phuket photographer  ที่จะให้ได้ภาพถ่ายมีลักษณะที่ไม่มืดมัวหรือสว่างจนเกินไปนั้น ส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับความเข้าใจการปรับตั้งขนาดของช่องรับแสง และความเร็วของชัตเตอร์ ให้ทำงานสัมพันธ์กับความไวแสงฟิล์มได้พอดี

โดยช่องรับแสงจะทำหน้าที่ควบคุมปริมาณของแสงที่จะเข้าไปทำปฏิกิริยากับฟิล์มร่วมกับชัตเตอร์ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมเวลาให้แสง ให้เข้าไปในกล้องได้เป็นระยะเวลานานเท่าใด การปรับขนาดช่องรับแสงที่แตกต่างกันนอกจากจะมีผลทำให้ปริมาณของแสงเข้าไปในกล้องต่างกันแล้ว ยังทำให้ระยะความคมชัดของภาพแตกต่างกันไปอีด้วย ซึ่งเรียกว่าภาพถ่ายมีช่วงความชัด หรือที่เรียก ต่างกัน ส่วนการปรับความเร็วของชัตเตอร์เช่นกัน หากมีการปรับหรือเปลี่ยนความเร็วของชัตเตอร์ ปริมาณของแสงก็จะเข้าไปในกล้องจะต่างกัน และยังมีผลต่อการถ่ายภาพวัตถุที่เคลื่อนที่อีกด้วย ดังจะกล่าวในรายละเอียดต่อไป

ความสัมพันธ์ระหว่างช่องรับแสงกับความเรวชัตเตอร์ เราอาจจะดูได้เนื่องจากช่องรับแสงและความเร็วชัตเตอร์ทำงานสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน เมื่อมีการปรับหรือเปลี่ยนช่องรับแสงหรือความเร็วชัตเตอร์ ปริมาณของแสงที่เข้าไปในกล้องก็จะต้องเปลี่ยนไปด้วย ข้อควรจำที่ง่ายๆ ก็คือในการเลือกใช้ขนาดช่องรับแสง และความเร็วของชัตเตอร์ต้องให้สัมพันธ์กันซึ่งจะคำนึงถึงความไวแสงฟิล์มที่ใช้ด้วยเมื่อต้องการเลือกปรับขนาดช่องรับแสงเป็นสำคัญก็ต้องปรับเปลี่ยนความเร็วชัตเตอร์ให้เร็วขึ้นหรือช้าลงตามสภาพของแสงขณะถ่ายภาพทำนองเดียวกัน หากว่าต้องการปรับเปลี่ยนความเร็วชัตเตอร์เป็นหลักต้องเปลี่ยนขนาดช่องรับแสงให้กว้างขึ้นหรือแคบลงตามสภาพของแสง

การนวดน้ำมัน ของ Bangkok Massage Service

ในการนวดน้ำมัน หรือ นวดอโรมา Bangkok Massage Service  คือการนวดกระตุ้นกล้ามเนื้อของร่างกายด้วยมือเป็นการนวดที่ไม่เน้นการลงน้ำหนัก แต่เน้นการให้ความรู้สึกผ่อนคลาย ลดการตึงของกล้ามเนื้อ ซึ่งน้ำมันที่ใช้นวดถูกออกแบบมาให้ลื่นมือ และสามารถนวดได้ง่ายขึ้นทั้งยังมีกลิ่นหอมอโรมาอีกด้วย ซึ่งปัจจุบันนี้ได้มีการเพิ่มสารให้ความชุ่มชื่นแก่ผิวทำให้ผิวดูอิ่มน้ำน่าสัมผัสหลังการนวดด้วยค่ะ

สิ่งที่ควรจะต้องรู้และคำถึงนึง ก่อนการไปนวดน้ำมัน สำหรับผู้ที่ไม่เคยนวดเรียกได้ว่าเป็นมือใหม่สำหรับการนวดมากๆแล้ว ขอแค่เลือกร้านดีก็มีชัยไปกว่าครึ่ง ดังนั้นเราจึงขอแนะนำให้เลือกร้านที่สะอาดสะอ้านเอาไว้ก่อน รวมถึงต้องดูไว้ใจได้ มีการแยกห้องหับอย่างเป็นสัดส่วน และขอให้ชัวร์ว่า“ร้านนวด” ที่คุณเข้า เป็น “ร้านนวด” แบบที่คุณต้องการจริงๆเลือกกลิ่นของน้ำมันอโรมา เหตุผลที่จำเป็นที่จะต้องเลือก เพราะกลิ่นหอมอโรมาแต่ละแบบก็จะให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันออกไป หากเป็นกลิ่นลาเวนเดอร์ ก็จะให้ความผ่อนคลาย สงบ ทำให้นอนหลับสบาย กลิ่นยูคาลิปตัส ช่วยให้ทางเดินหายใจโล่ง โปร่ง ช่วยให้รู้สึกสดชื่น กลิ่นดอกไม้ต่างๆ ช่วยให้สดชื่น มีชีวิตชีวา รู้สึกปลอดโปร่ง เป็นต้นไม่ต้องเขินอาย

การนวดในแบบ Bangkok Massage Service จึงถูกออกแบบให้เหมาะกับทุกวัยที่ต้องการการผ่อนคลาย ซึ่งน้ำหอมที่เรียกใช้ก็จะเป็นตามความชอบของลูกค้าแต่ละคน โดยมีให้เลือกอย่างมากมาย

ยุคสมัยปัจจุบันกับการเกษตรอุตสาหกรรม

สำหรับกระแสการรับประทานอาหารคลีนเพื่อสุขภาพนั้น เป็นประโยชน์และส่งผลดีต่อร่างกาย แต่ต้องคำนึงถึงปริมาณผักและผลไม้ ที่นำมาประกอบเป็นอาหารคลีนว่าอยู่ในปริมาณ ที่แนะนำให้รับประทานในแต่ละวันหรือไม่ การเสียชีวิตจากโรคทางเดินหายใจ ระบบ ไหลเวียนโลหิต และระบบทางเดินอาหาร ขณะที่ผู้รับประทานผักและผลไม้ในปริมาณต่ำ

นอกจากนี้ ยังมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ยืนยันว่า การรับประทานผักและผลไม้ในสัดส่วนดังกล่าวจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรค ไม่ติดต่อเรื้อรัง ทั้งเบาหวาน และความดัน เป็นต้น

ประเทศไทยอุดมสมบูรณ์ไปด้วยผลไม้และผักนานาชนิด และมีให้บริโภคกันอยู่ตลอดปี ซึ่งปริมาณการผลิตในแต่ละปีนั้นไม่สม่ำเสมอ ขึ้นอยู่กับสภาพดิน ฟ้า อากาศ ผลผลิตส่วนมากจะนิยมบริโภคสด และใช้ในอุตสาหกรรมแปรรูปเกือบทั้งหมด การนำผลผลิตทางการเกษตรมาแปรรูปจะช่วยป้องกันการล้นตลาดของผลิตผลสด ซึ่งช่วยยกระดับราคาผลิตผลไม่ให้ตกต่ำ การเพิ่มมูลค่าของผลิตผลทางการเกษตรมาแปรรูปเป็นอาหารระดับอุตสาหกรรมที่สามารถรับวัตถุดิบเพื่อผลิตเป็นอาหารจำนวนมากได้ ส่งผลให้ธุรกิจแปรรูปผักและผลไม้มีแนวโน้มขยายตัวได้อีกมาก และเป็นโอกาสที่ไม่ควรมองข้ามสำหรับผู้ประกอบการในการเข้ามาในธุรกิจ

การแข่งขันการค้าของโลกได้ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ การที่จะสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้นั้น จำเป็นที่จะต้องสร้างคุณค่าใหม่ๆให้แก่สินค้า เพื่อให้เกิดความแปลกใหม่ ดังนั้นจึงมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์การเกษตรต่างๆให้มีคุณภาพที่ดีขึ้น แต่เราก็มิอาจปฏิเสธได้ว่า สินค้าหลักของประเทศไทยยังคงเป็น สินค้าเกษตรกรรม

กระแสการรับประทานอาหารคลีนผักและผลไม้เพื่อสุขภาพในปัจจุบัน

4

ประเทศไทยมีการสำรวจสถิติการรับประทานผักและผลไม้ ในช่วง พ.ศ. 2550-2554 โดยปริมาณการรับประทานผักและผลไม้ที่แนะนำในแต่ละวันคือ 400 กรัมต่อวัน ซึ่งเป็นปริมาณที่สอดคล้องกับองค์การอนามัยโลก (WHO) แต่พบว่า ประชากรไทยร้อยละ 70 ของกลุ่มประชากรที่สำรวจ มีการรับประทานผักและผลไม้น้อยกว่าปริมาณที่แนะนำในแต่ละวัน ทั้งๆ ที่ประเทศไทยมีผักที่รับประทานได้ถึง 330 ชนิด รวมทั้งผัก พื้นบ้านด้วย สาเหตุที่คนไทยรับประทานผักและผลไม้ต่ำกว่าเกณฑ์เกิดจากสภาพสังคมไทย ในปัจจุบัน ซึ่งปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัย เวลาส่วนใหญ่มักอยู่กับการทำงานและมีเวลาค่อนข้างจำกัด รวมถึงการเลือกชนิดของอาหาร และอาหารจานด่วนส่วนใหญ่มักมีส่วนประกอบของผักและผลไม้ค่อนข้างน้อย ประชาชนทั่วไปจึงสะดวก ในการเลือกซื้ออาหารประเภทดังกล่าวมากกว่าคำนึงถึงประโยชน์ที่จะได้รับจากการรับประทานอาหารที่มีผักและผลไม้ที่เป็นองค์ประกอบหลัก

สำหรับกระแสการรับประทานอาหารคลีนเพื่อสุขภาพนั้น เป็นประโยชน์และส่งผลดีต่อร่างกาย แต่ต้องคำนึงถึงปริมาณผักและผลไม้ ที่นำมาประกอบเป็นอาหารคลีนว่าอยู่ในปริมาณ ที่แนะนำให้รับประทานในแต่ละวันหรือไม่ ซึ่งจากการศึกษาพบว่า การรับประทานผักและผลไม้มากกว่า 569 กรัมต่อวัน ช่วยลดความเสี่ยง การเสียชีวิตจากโรคทางเดินหายใจ ระบบ ไหลเวียนโลหิต และระบบทางเดินอาหาร ขณะที่ผู้รับประทานผักและผลไม้ในปริมาณต่ำกว่า 249 กรัมต่อวัน จะมีความเสี่ยงในโรคดังกล่าวเพิ่มขึ้น การรับประทานผักและผลไม้ให้เพียงพอ ยังช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็งได้ถึง 50% ลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจได้ถึง 30% ลด ความเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมองได้ 6% โรคมะเร็งทางเดินอาหาร กระเพาะอาหาร หลอดอาหาร 1-6% นอกจากนี้ ยังมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ยืนยันว่า การรับประทานผักและผลไม้ในสัดส่วนดังกล่าวจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรค ไม่ติดต่อเรื้อรัง ทั้งเบาหวาน และความดัน เป็นต้น”

นอกจากสถิติที่น่าเป็นห่วงเกี่ยวกับการ รับประทานผักและผลไม้ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานแล้ว ‘ดร.คีธ แรนดอล์ฟ’ นักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการของสถาบันสุขภาพนิวทริไลท์และหนึ่งในทีมวิจัยเผยว่า “จำนวนประชากรถึง 3 ใน 4 ของกลุ่มประชากรผู้ใหญ่ทั่วโลกยังได้รับ ไฟโตนิวเทรียนท์ที่ขาดความหลากหลายและ ไม่เพียงพอต่อการมีสุขภาพดี ไฟโตนิวเทรียนท์หรือสารอาหารตามธรรมชาติที่พบในพืชต่างๆ ทำหน้าที่คอยปกป้องพืชจากศัตรูตามธรรมชาติ รวมทั้งป้องกันการเกิดความเครียดทางกาย และการเกิดสารอนุมูลอิสระ ไฟโตนิวเทรียนท์ทำให้ พืชมีสีสันต่างๆ ดังนั้น การรับประทานสีต่างๆ ในอาหารจะทำให้ร่างกายสามารถสร้างภูมิคุ้มกัน ให้แข็งแรงยิ่งขึ้น ซึ่งส่งผลต่อการมีสุขภาพอนามัยที่ดี

ความเชื่อเกี่ยวกับการกินสลัดเพื่อสุขภาพแบบผิด ๆ ในปัจจุบัน

16ก่อนจะหยิบสลัดสีเขียวขึ้นมากิน และคิดว่าคุณได้เลือกอาหารที่ดีที่สุดมากินให้สมกับเป็นหนุ่มรักสุขภาพ โดยมั่นใจว่ามันจะไม่ทำให้การเข้าไปฟิตร่างกายในฟิตเนสของคุณสูญเปล่าแน่ ๆ แล้วล่ะก็ ขอให้คุณแน่ใจว่ารู้เรื่องการกินสลัดเพื่อสุขภาพอย่างถูกวิธีก่อนดีกว่า ไม่อย่างนั้นล่ะก็ สลัดจานเขียวที่คุณคิดว่าไขมันต่ำเนี่ย อาจทำให้อ้วนได้มากพอ ๆ กับอาหารขยะเลยทีเดียว ซึ่งได้รวบรวมข้อมูลความเชื่อเกี่ยวกับการกินสลัดเพื่อสุขภาพแบบผิด ๆ มาบอกให้ได้ทราบกัน เพื่อที่ต่อจากนี้ไปจะได้ไม่ตะบี้ตะบันกินแบบไม่ลืมหูลืมตายังไงล่ะครับไขมันก็เป็นสารอาหารอย่างหนึ่งที่ร่างกายต้องการด้วยเหมือนกัน ซึ่งมีทั้งไขมันที่ดีและเลวกับร่างกาย ดังนั้นการใส่น้ำสลัดครีมเพิ่มไขมันเข้าไปสักหน่อยจึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เพราะมันเป็นตัวช่วยทำให้เซลล์สามารถซึมซับสารแอนตี้ออกซิแดนท์จากผักใบเขียว, มะเขือเทศและแครอทได้ รวมทั้งช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจได้เลยล่ะ

เวลาไปตักสลัดเราก็มักจะเห็นผักใบเขียววางเรียงรายอยู่เต็มไปหมด พร้อมชื่อปักบอกชนิดของผักเอาไว้ แต่หน้าตาที่ดูเหมือนกันจนแทบแยกไม่ออก ทำให้เราคิดว่าตัก ๆ ไปเถอะ ใบไหนก็เหมือนกันหมดนั่นแหละ แต่ที่จริงแล้วมันไม่เหมือนกันสักนิด เพราะประโยชน์ที่ได้ต่างกันอย่างสิ้นเชิง เช่น ผักกาดแก้วและเอ็นไดฟแทบไม่มีสารอาหารอะไรเลย ผิดกับอะรูกูล่าและผักน้ำที่มีฤทธิ์ต้านมะเร็ง หรือถ้าใครอยากบำรุงสายตาก็ต้องเลือกผักโขม, ผักเคล และหัวผักกาด นอกจากนี้ยังมีผักกาดหวานกับแครอทที่มีเบต้าแคโรทีนสูง ให้ประโยชน์ต่อร่างกายได้มาก หากคุณเป็นอีกคนที่หลงผิดไปกับความเชื่อว่าของออร์แกนิคต้องดีกว่าไปซะทุกอย่าง ก็อย่าเพิ่งยึดติดกับความเชื่อนั้นมากนักเลย เพราะบางทีไม่ได้ดีอย่างนั้นเสมอไปหรอก จริงอยู่ว่าความสะอาดปลอดภัยน่ะมากกว่าแน่นอน แต่ถ้าเป็นเรื่องสารอาหารคงไม่ใช่แน่ ๆ เนื่องจากปุ๋ยที่ใช้สำหรับปลูกผักออร์แกนิคบางที่ไม่มีสารอาหารสำหรับผักและผลไม้มากเท่าที่ควร

รู้ไว้ซะว่าบางทีสลัดที่กินเข้าไปกลับทำให้อ้วนได้มากกว่าการกินสเต็กพร้อมมันฝรั่งทอดซะอีกนะ หากคุณตักของที่ให้พลังงานมาก ๆ เช่น ชีส เบคอน และมายองเนสมาใส่ด้วยเยอะเกินไป หรือตัวอย่างง่าย ๆ แค่ซีซาร์สลัดไก่ที่คนชอบกินกันก็ให้พลังงานมากถึง 780 แคลอรี่ มีไขมัน 60 กรัม กับไขมันอิ่มตัวอีก 10 กรัมแล้ว อ้วนจนน่าตกใจเลยจริงไหมล่ะจากการวิจัยของนักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่ แคลอรี่เชิงลบหรืออาหารที่เมื่อผ่านระบบย่อยเเล้วจะให้พลังงานเป็นศูนย์ทันที เป็นความคิดในอุดมคติเท่านั้น ไม่ได้มีจริง ไม่เว้นแม้แต่ผักอย่างเซเลอรีที่หลายคนเข้าใจผิดกันด้วย เพียงแต่เซเลอรีเป็นผักที่ให้พลังงานน้อย เพียงแค่ 6 แคลอรี่ต่อแท่งเท่านั้นเอง ทว่าก็ถือว่าเป็นผักที่เหมาะกับคนต้องการลดน้ำหนักมาก ๆ เลยล่ะ

กระแสการรับประทานอาหารคลีนเพื่อสุขภาพนั้นกำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน

14

ประเทศไทยมีการสำรวจสถิติการรับประทานผักและผลไม้ ในช่วง พ.ศ. 2550-2554 โดยปริมาณการรับประทานผักและผลไม้ที่แนะนำในแต่ละวันคือ 400 กรัมต่อวัน ซึ่งเป็นปริมาณที่สอดคล้องกับองค์การอนามัยโลก แต่พบว่า ประชากรไทยร้อยละ 70 ของกลุ่มประชากรที่สำรวจ มีการรับประทานผักและผลไม้น้อยกว่าปริมาณที่แนะนำในแต่ละวัน ทั้งๆ ที่ประเทศไทยมีผักที่รับประทานได้ถึง 330 ชนิด รวมทั้งผัก พื้นบ้านด้วย สาเหตุที่คนไทยรับประทานผักและผลไม้ต่ำกว่าเกณฑ์เกิดจากสภาพสังคมไทย ในปัจจุบัน ซึ่งปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัย เวลาส่วนใหญ่มักอยู่กับการทำงานและมีเวลาค่อนข้างจำกัด รวมถึงการเลือกชนิดของอาหาร และอาหารจานด่วนส่วนใหญ่มักมีส่วนประกอบของผักและผลไม้ค่อนข้างน้อย ประชาชนทั่วไปจึงสะดวก ในการเลือกซื้ออาหารประเภทดังกล่าวมากกว่าคำนึงถึงประโยชน์ที่จะได้รับจากการรับประทานอาหารที่มีผักและผลไม้ที่เป็นองค์ประกอบหลัก

สำหรับกระแสการรับประทานอาหารคลีนเพื่อสุขภาพนั้น เป็นประโยชน์และส่งผลดีต่อร่างกาย แต่ต้องคำนึงถึงปริมาณผักและผลไม้ ที่นำมาประกอบเป็นอาหารคลีนว่าอยู่ในปริมาณ ที่แนะนำให้รับประทานในแต่ละวันหรือไม่ ซึ่งจากการศึกษาพบว่า การรับประทานผักและผลไม้มากกว่า 569 กรัมต่อวัน ช่วยลดความเสี่ยง การเสียชีวิตจากโรคทางเดินหายใจ ระบบ ไหลเวียนโลหิต และระบบทางเดินอาหาร ขณะที่ผู้รับประทานผักและผลไม้ในปริมาณต่ำกว่า 249 กรัมต่อวัน จะมีความเสี่ยงในโรคดังกล่าวเพิ่มขึ้น การรับประทานผักและผลไม้ให้เพียงพอ ยังช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็งได้ถึง 50% ลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจได้ถึง 30% ลด ความเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมองได้ 6% โรคมะเร็งทางเดินอาหาร กระเพาะอาหาร หลอดอาหาร 1-6% นอกจากนี้ ยังมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ยืนยันว่า การรับประทานผักและผลไม้ในสัดส่วนดังกล่าวจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรค ไม่ติดต่อเรื้อรัง ทั้งเบาหวาน และความดัน เป็นต้น

นอกจากสถิติที่น่าเป็นห่วงเกี่ยวกับการรับประทานผักและผลไม้ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานแล้วจำนวนประชากรถึง 3 ใน 4 ของกลุ่มประชากรผู้ใหญ่ทั่วโลกยังได้รับ ไฟโตนิวเทรียนท์ที่ขาดความหลากหลายและไม่เพียงพอต่อการมีสุขภาพดี ไฟโตนิวเทรียนท์หรือสารอาหารตามธรรมชาติที่พบในพืชต่างๆ ทำหน้าที่คอยปกป้องพืชจากศัตรูตามธรรมชาติ รวมทั้งป้องกันการเกิดความเครียดทางกาย และการเกิดสารอนุมูลอิสระ ไฟโตนิวเทรียนท์ทำให้ พืชมีสีสันต่างๆ ดังนั้น การรับประทานสีต่างๆ ในอาหารจะทำให้ร่างกายสามารถสร้างภูมิคุ้มกัน ให้แข็งแรงยิ่งขึ้น ซึ่งส่งผลต่อการมีสุขภาพอนามัยที่ดี

เทคนิคนวัตกรรมในการผลิตผลไม้นอกฤดูเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร

ไม้ผลนอกฤดูกาล คำๆ นี้ในปัจจุบันเป็นคำที่ใช้กันอย่างแพร่หลายทั้งในหมู่นักวิชาการเกษตร เกษตรกรและบุคคลทั่วไป ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากการประสบผลสำเร็จในการทำให้ไม้ผลบางชนิดสามารถออกดอกนอกฤดูได้นั่นเอง จากความสำเร็จดังกล่าวก็ได้สร้างความสนใจให้กับบุคคลในวงการเกษตรกันมากจนถึงกับได้มีการศึกษาและทดลองกันอย่างกว้างขวางกับไม้ผลชนิดอื่น และก็มีแนวโน้มว่าสามารถที่จะบังคับใช้ไม้ผลบางชนิดออกดอกนอกฤดูได้เช่นเดียวกัน

การบังคับหรือกระตุ้นหรือชักนำเพื่อให้ไม้ผลออกดอกนอกฤดูนั้น หากเรามองย้อนกลับไปในอดีต จะเห็นได้ว่า วิธีการต่าง ๆ ที่ใช้บังคับให้ไม้ผลออกดอกนั้นมีการปฏิบัติกันมาช้านานแล้ว โดยในสมัยก่อนวิธีการเหล่านั้นอาจจะค้นพบโดยบังเอิญหรือไม่ได้ตั้งใจ ยกตัวอย่างเช่น การทรมานต้นไม้ด้วยวิธีการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น การสับกิ่ง สับต้น การตอกตะปูที่ต้น การรมควัน การตอนกิ่ง รัดกิ่ง หรือแม้กระทั่งการที่ต้นไม้ขาดน้ำเป็นต้น และเป็นธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตทั่ว ๆไป เมื่อรู้ตัวว่าใกล้จะตาย เช่น ถูกทรมานด้วยวิธีการต่าง ๆ หรืออยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม ก็มีการแตกดอกออกผลขึ้นมา มนุษย์ก็ได้ก็ได้สังเกตและรู้หลักการอันนี้จึงได้มีการบังคับให้ไม้ผลออกดอกด้วยวิธีการดังกล่าว ปัจจุบันนี้วิทยาการในการบังคับเพื่อให้ไม้ผลออกดอกนอกฤดูกาลได้ก้าวหน้าไปมาก มีการใช้สารเคมีบางชนิดและเทคโนโลยีใหม่ ๆ บังคับให้ไม้ผลออกดอกนอกฤดูกาลได้แน่นอนขึ้นและกระทำได้อย่างกว้างขวางกับไม้ผลหลายชนิด

อย่างไรก็ตาม การผลิตไม้ผลนอกฤดูกาลก็ยังเป็นศาสตร์ที่ละเอียดอ่อนและลึกซึ้ง กล่าวคือ แม้ว่าในขณะนี้เราสามารถผลิตไม้ผลนอกฤดูขึ้นได้ในพืชหลายชนิดและนั่นก็ไม่ใช่ว่าจะกระทำได้อย่างแน่นอนหรือกระทำได้ทั่ว ๆ ไปในทุกสภาพท้องที่แต่ยังขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ อีกหลายชนิดอาทิเช่น พันธุ์ ความสมบูรณ์ของต้น สภาพภูมิอากาศ ตลอดจนเทคนิคและวิธีปฏิบัติของแต่ละคน ในบางครั้งถึงแม้จะมีปัจจัยเหล่านี้อยู่อย่างครบถ้วนแล้วก็ตามการผลิตไม้ผลนอกฤดูกาลก็อาจไม่ประสบผลสำเร็จเต็มที่เสมอไป

แนวทางการผลิตผลไม้นอกฤดูมีวิธีการต่างๆ หลายวิธีดังนี้
1. ใช้พันธุ์ที่ออกดอกนอกฤดูอยู่แล้ว เช่น มะม่วงพันธุ์ทะวายต่างๆ น้ำดอกไม้ทะวาย พิมเสนมันทะวาย โชคอนันต์ เป็นต้น
2. เลือกช่วงเวลาการปลูกให้ไม่ตรงกับคนอื่น ใช้กับไม้ผลที่มีอายุสั้นเมื่อถึงอายุก็ออกดอกติดผล เช่น กล้วย มะละกอ ปกติต้องอาศัยน้ำฝนจะปลูกต้นฤดูฝน หากมีน้ำชลประทานควรเลือกปลูกช่วงปลายฤดูฝนหรือฤดูแล้งจะทำให้มีผลผลิตจำหน่ายไม่ตรงกับเขตอื่น
3. ใช้การตัดแต่งกิ่ง ทำกับไม้ผลที่เมื่อแตกกิ่งใหม่จะมีช่อดอกออกมาด้วย เช่น น้อยหน่า ฝรั่ง องุ่น เป็นต้น
4. ใช้ปุ๋ยเคมี N.D.Bondad it af 1978 รายงานว่าโปแตสเซียมไนเตรทอัตราความเข้มข้น 1-4 เปอร์เซ็นต์ ทำให้มะม่วงพันธุ์คาราบาวแทงช่อดอกนอกฤดูกาลได้
5. การใช้สารชะลอการเจริญเติบโต เช่น พาโคลบิวทราโซล ใช้กับมะม่วงโดยฉีดพ่นทางใบ
อัตรา 1,000-2,000 ppm. ทำให้มะม่วงออกดอกก่อนกำหนด 35 วัน ในปัจจุบันนิยมราดทางดินชิดโคนต้นระยะเหมาะสมของต้นที่จะใช้ต้องมีใบสีเขียวอ่อน ปริมาณสารต่อต้นเท่ากับความกว้างทรงพุ่มเป็นเมตรคูณด้วยค่าคงที่ของพันธุ์ คือ พันธุ์ออกง่ายให้ค่าคงที่เท่ากับ 10 ได้แก่ มะม่วงน้ำดอกไม้ ฟ้าลั่น ทองดำ หนองแซง เจ้าคุณทิพย์ แก้วลืมรัง ลิ้นงูเห่า โชคอนันต์ ส่วนพันธุ์ที่ออกยากให้ค่าคงที่ของพันธุ์ออกยาก เท่ากับ 15 ได้แก่ มะม่วงพันธุ์เขียวเสวย หนังกลางวัน อกร่อง แรด และพิมเสนมัน

การรับประทานอาหารเช้าจะทำให้ร่างกายทำงานทั้งวันอย่างมีประสิทธิภาพ

18

มื้อเช้าถือเป็นมื้อที่สำคัญที่สุดสำหรับร่างกาย การรับประทานอาหารเช้าจะทำให้ร่างกายทำงานทั้งวันอย่างมีประสิทธิภาพ และยังช่วยลดความอยากอาหาร ทำให้ทานอาหารในมื้ออื่น ๆ รวมทั้งขนมจุบจิบน้อยลงได้อีกด้วย แล้วถ้ายิ่งมีผลไม้ ที่ไม่ใช่พวกบรรดาผลไม้ที่ผ่านการดัดแปลง แต่เป็นผลไม้สด ๆ เป็นส่วนหนึ่งในมื้อเช้าด้วยละก็ รับรองว่าจะยิ่งไปประโยชน์มากมายขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อเลยละ อยากรู้กันไหมคะว่าการรับประทานผลไม้ตอนเช้ามีประโยชน์อย่างไรต่อร่างกายบ้าง

ช่วยเพิ่มพลังงานให้ร่างกายผลไม้ก็ถือเป็นอาหารชนิดหนึ่งที่อุดมไปด้วยคาร์โบไฮเดรต ไฟเบอร์ และน้ำตาลที่ย่อยช้า ซึ่งผลไม้นี่ละที่จะช่วยให้ร่างกายของคุณรู้สึกกระปรี้กระเปร่าได้ตลอดทั้งวัน ไม่ว่าจะเป็นแอปเปิล ส้ม กล้วย ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ หรือเมลอน ผลไม้เหล่านี้เป็นตัวเลือกที่ดีเลยละค่ะถ้าอยากจะรับประทานผลไม้ในมื้อเช้า

กระตุ้นระบบขับถ่ายหากคุณกำลังประสบปัญหาท้องผูกอยู่ละก็ ลองรับประทานผลไม้ในมื้อเช้าสิ เพราะผลไม้มีกากใยสูงสามารถช่วยล้างสารพิษที่อยู่ในร่างกายมาตั้งแต่หลังมื้อเย็นจนถึงตื่นนอนได้ ดังนั้นถ้าเรารับประทานผลไม้เข้าไปในมื้อเช้าก็จะช่วยกระตุ้นให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น เมื่อสารพิษต่าง ๆ ถูกขับออกมาผ่านการขับถ่ายแล้ว ร่างกายก็จะรู้สึกสดชื่นอีกครั้งค่ะ

เอนไซม์สูงรู้หรือเปล่าว่าผลไม้ที่เรารับประทานกันอยู่นี้ เป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยเอนไซม์ต่าง ๆ และเอนไซม์ในผลไม้นี่ละที่จะคอยทำหน้าที่ต่าง ๆให้ร่างกายมากมาย อย่างเช่นช่วยให้ร่างกายย่อยอาหารได้ตามธรรมชาติ แถมมันยังช่วยในการดูดซึมสารอาหารต่าง ๆ ที่เรารับประทานเข้าไปอีกด้วย ซึ่งในผลไม้มีเอนไซม์มากกว่าผักเสียอีก แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเราควรจะเปลี่ยนมากินผลไม้แทนผักเพียงอย่างเดียวนะคะ ทานควบคู่กันในอาหารเช้าจะทำให้ยิ่งได้ประโยชน์มากขึ้นค่ะ

ทำให้อารมณ์ดีอย่างที่หลาย ๆ คนรู้ว่า สมองของเราต้องใช้กลูโคสอย่างมหาศาลเพื่อทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นเราจึงต้องหาแหล่งที่มีกลูโคสสูงและมีประโยชน์ต่อร่างกายป้อนให้สมองด้วย ผลไม้จึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่จะทำให้คุณรู้สึกกระฉับกระเฉงมากขึ้น เพราะน้ำตาลจากธรรมชาติและไฟเบอร์ที่อยู่ในผลไม้จะช่วยทำให้เรามีสมาธิและช่วยชะลอระดับน้ำตาลที่อยู่ในเลือด แถมยังช่วยทำให้อารมณ์ดีอีกด้วย เห็นไหมละคะ ไม่กินผลไม้ไม่ได้แล้ว

สูตรน้ำผักผลไม้สดคุณค่าสูงและดื่มง่าย

smoothie1
การดื่มน้ำผักผลไม้สด เป็นส่วนสำคัญของกระบวนการธรรมชาติบำบัด ไม่ว่าจะเพื่อการรักษาอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย โรคที่รักษายากหรือโรคเรื้อรัง น้ำผักผลไม้สดก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่กำลังได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะไม่เพียงแต่จะช่วยทำให้มีสุขภาพดีเท่านั้น แต่ยังช่วยทำให้ร่างกายสดชื่นขึ้นอีกด้วย เนื่องจากน้ำผักผลไม้อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ในการบำรุงสุขภาพ และช่วยรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ประโยชน์ที่ได้จากการคั้นก็คือกากในผกผลไม้ที่ย่อยไม่ได้จะถูกแยกออกไป เหลือเพียงแต่น้ำที่มีแต่สารอาหารล้วนๆ จึงมีความเข้มข้นกว่าการรับประทานสดด้วยวิธีปกติ คุณจึงมั่นใจได้ว่าการคั้นน้ำผักผลไม้ดื่มทุกวัน ร่างกายของคุณจะได้รับวิตามิน เกลือแร่ และเอนไซม์เต็มๆ

น้ำผักผลไม้ที่ได้จากส่วนประกอบต่างๆของพืช เช่น ใบ ราก ดอก ก้าน ผล เมล็ดธัญพืช และส่วนที่รับประทานได้ทั้งต้น การทำน้ำผักผลไม้ดื่มเองให้คุณค่าสูงจากความสดใหม่และดื่มง่าย จึงให้ประโยชน์จากคุณค่าของผักผลไม้มาก และยังทำให้รู้สึกสดชื่น ผ่อนคลาย สบายใจ และยังได้ประโยชน์นับไม่ถ้วนจากสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งมีอยู่ในผักผลไม้มากมายหลายพันอย่าง สารต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันความชรา ป้องกันโรคภัยไข้เจ็บ ป้องกันมะเร็ง ดูแลสุขภาพโดยรวมอย่างที่อาหารทั่วไปที่สุกแล้วไม่มีให้ คุณอาจประยุกต์ใช้ผักหรือผลไม้อื่นๆรวมทั้งธัญพืช เพื่อทำน้ำผักผลไม้ด้วยตัวท่านเอง

น้ำคั้นจากผักผลไม้จำเป็นที่จะต้องมีความสดใหม่ เพราะน้ำคั้นจากผักผลไม้ที่สดเท่านั้นที่มีประสิทธิภาพในการรักษโรค เช่น แคโรทีนที่พบมากในผักจะสามารถสลายตัวได้เร็วเมื่อถูกออกซิเจนในอากาศ หากแครอทถูกหั่นเป็นชิ้นเก็บไว้ประมาณ 20-25 นาทีจะทำให้วิตามินเอส่วนใหญ่ในแครอทสลายตัวเมื่อทำปฏิกิริยากับออกซิเจน ในทำนองเดียวกันหากเก็บมะนาว ส้ม และผลไม้ จำพวกส้มอื่นๆที่อุดมไปด้วยวิตามินซีไว้เป็นเวลา 1 เดือนจะสูญเสียวิตามินซีถึงร้อยละ40 ซึ่งแม้แต่ตู้เย็นก็ไม่สามารถป้องกันการสลายตัวของวิตามินซีได้ จึงเห็นได้ว่าผลไม้และผักจะต้องสดถึงจะได้รับธาตุอาหารสมบูรณ์ ช่วยล้างสิ่งปฏิกูลในร่างกาย ตลอดจนสารพิษต่างๆอย่างรวดเร็ว ซึ่งสิ่งที่เห็นได้ชัด ก็คือการลดอาการปวดต่างๆ จากอาการท้องเสีย หรือมีของเสียค้างอยู่ในระบบเลือดมาก มากจนปวดตามกล้ามเนื้อ ซึ่งเมื่อดื่มไปสักระยะเวลาหนึ่ง อาการต่างๆที่เป็นอยู่จะค่อยๆลดลงตามลำดับ เพราะการดื่มน้ำผักเป็นการเติมสารอาหารประเภทวิตามิน เกลือแร่ จำเป็นและที่สำคัญ คือคลอโรฟิลด์ เมื่อดื่มเข้าไปแล้วส่วนที่ต้องถูกดุดซึมไปฟื้นฟูตับ การย่อยคาร์โปรไฮเดรด ไขมัน เกลือแร่ และวิตามินก็จะทำได้มากขึ้น

เมนูง่ายๆที่ได้จากผักขมทั้งดีและมีประโยชน์

7b87cf2f9ad6fc1a7be8cef50f14fd0cผักโขม เป็นผักป่าหรือผักพื้นบ้านที่เติบโตได้เองตามธรรมชาติ โดยปัจจุบันมีการคัดเลือกและปรับปรุงพันธุ์ให้มีลักษณะตรงตามความต้องการสำหรับบริโภคมากขึ้น โดยมีการปลูกสำหรับรับประทานเองและเพื่อจำหน่าย นิยมนำมาต้มรับประทานสุก จิ้มน้ำพริก ทำแกงจืด ผัด ทอด และประกอบในเมนูอาหารได้หลากหลาย โดยผักโขมมีถิ่นกำเนิดในแถบประเทศเขตร้อน มีมากกว่า 60 สายพันธุ์ จัดเป็นพืชล้มลุก ใบเลี้ยงคู่ มีลักษณะเป็นไม้เลื้อยหรือลำต้นตั้งตรงสูงตั้งแต่ 10 ซม. จนถึงมากกว่า 1 เมตร ลำต้นมีทั้งแตกกิ่งและไม่แตกกิ่งแขนง ลำต้นอาจมีหนามและไม่มีหนาม ใบและลำต้นมีสีแดงหรือสีเขียว ใบมีรูปไข่หรือรูปไข่ต้นใบกว้าง ขอบใบเป็นคลื่นเล็กน้อย ดอกมีลักษณะออกเป็นช่อประกอบด้วยดอกจำนวนมาก ส่วนเมล็ดเมื่อแก่จะมีสีดำขนาดเล็ก 0.5-1 มิลลิเมตร

การรับประทานสลัดผักโขมก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่ต้องจำไว้ว่าไม่ควรกินผักโขมแบบดิบๆเท่านั้นเอง อันดับแรกให้เด็ดใบผักโขมเลือกเอาเฉพาะใบอ่อนๆ จะได้ไม่เหนียวเวลารับประทาน นำมาล้างน้ำให้สะอาดหลังจากนั้นนำไปใส่หม้อตั้งไฟ ปิดฝาทิ้งไว้สักพัก โดยไม่ต้องเติมน้ำเพิ่มเพราะน้ำในใบผักโขมจะทำให้ผักโขมสุกได้เอง เพียงแค่นี้เราก็ได้ใบผักโขมมาทานเป็นสลัดกันแล้ว หรือถ้าอยากให้มีรสชาติหรือคุณค่าทางอาหารเพิ่มมากขึ้นก็ให้ใส่ผักชนิดอื่นที่เราชอบรวมเข้าไปด้วย จะเป็นผักที่สุกแล้วหรือผักดิบก็ได้ อย่างเช่น ฟักทอง แครอท ผักกาดหอม พริกหวาน แตงกวา แล้วใส่น้ำสลัดที่เราชอบคลุกรวมลงไป แค่นี้ก็ได้ทานสลัดผักโขมแสนอร่อยกันแล้ว ถ้าเป็นเมนูตามร้านก็จะมีการใส่เบคอนทอดลงไปเพิ่ม แต่เราอาจจะเปลี่ยนเป็นใส่ไข่ต้มสุกสักลูกก็เพียงพอแล้ว นอกจากอร่อยยังได้ประโยชน์อีกด้วย

คุณค่าทางอาหารของผักโขมผักโขม

– ผักโขมยังมีเบต้าแคโรทีนสูง ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันมะเร็งโดยเฉพาะมะเร็งปอด และมะเร็งเต้านม ในคุณสุภาพสตรี
– ผักโขมมีสารซาโปนิน(Saponin) ที่ช่วยลดคอเรสเตอรอลในเลือดได้เป็นอย่างดี และยังช่วยขจัดสารพิษในร่างกาย ชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์
– วิตามินเอในผักโขม ช่วยในการมองเห็นและช่วยบำรุงสายตา
– วิตามินซี นอกจากในเรื่องป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟันแล้ว ยังช่วยเสริมสร้าคอลลาเจน เพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว
– ในผักโขมนั้นอุดมไปด้วยเส้นใย จึงช่วยในระบบขับถ่าย ลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร

การนำผักและผลไม้มาแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าผลิตผลทางการเกษตร

ประเทศไทยอุดมสมบูรณ์ไปด้วยผลไม้และผักนานาชนิด และมีให้บริโภคกันอยู่ตลอดปี ผลไม้ที่สำคัญของไทย ได้แก่ สับปะรด ฝรั่ง กระท้อน มะม่วง องุ่น ส้มโอ กล้วย ลิ้นจี่ ลำไย มังคุด เงาะ พุทรา ส้ม มะนาว ทุเรียน ขนุน มะละกอ มะกอกน้ำ สมอ และสตรอเบอรี่ ผลไม้เหล่านี้จะมีระยะเวลาออกสู่ตลาดสับเปลี่ยนตลอดปี ซึ่งปริมาณการผลิตในแต่ละปีนั้นไม่สม่ำเสมอ ขึ้นอยู่กับสภาพดิน ฟ้า อากาศ ผลผลิตส่วนมากจะนิยมบริโภคสด และใช้ในอุตสาหกรรมแปรรูปเกือบทั้งหมด ปัจจุบันผู้ประกอบการก็ได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์แปรรูปจากผักและผลไม้ที่หลากหลายและสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้ รวมทั้งมีช่องทางการจำหน่ายที่ครอบคลุมทุกพื้นที่ ทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงสินค้าได้ง่ายกว่าแต่ก่อน และส่งผลให้ผู้บริโภคเปิดรับผักและผลไม้แปรรูปในฐานะขนมขบเคี้ยวเพื่อสุขภาพกันมากขึ้น

การนำผลผลิตทางการเกษตรมาแปรรูปจะช่วยป้องกันการล้นตลาดของผลิตผลสด ซึ่งช่วยยกระดับราคาผลิตผลไม่ให้ตกต่ำ การเพิ่มมูลค่าของผลิตผลทางการเกษตรมาแปรรูปเป็นอาหารระดับอุตสาหกรรมที่สามารถรับวัตถุดิบเพื่อผลิตเป็นอาหารจำนวนมากได้ การผลิตอาหารให้ได้มาตรฐานเพื่อความปลอดภัยต่อผู้บริโภค การส่งเสริมให้ผลิตภัณฑ์แปรรูปอาหารให้เป็นที่ยอมรับและสามารถขยายตลาดการค้าออกไปสู่ต่างประเทศ จะช่วยเพิ่มพูนรายได้ให้แก่ประเทศได้เป็นอย่างดี โดยเป็นการนำเอาผลผลิตทางการเกษตรมาผ่านกระบวนการต่างๆเพื่อให้เก็บรักษาผลผลิตทางเกษตรไว้ได้นานก่อนถึงตลาดและผู้ซื้อ ปัจจัยที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการเก็บรักษาผลผลิตทางการเกษตร ได้แก่ สภาพของผลผลิตความสะอาด ความชื้น อุณหภูมิ การถ่ายเทอากาศ

จากกระแสรักสุขภาพของผู้บริโภคยุคปัจจุบัน ส่งผลให้ธุรกิจแปรรูปผักและผลไม้มีแนวโน้มขยายตัวได้อีกมาก และเป็นโอกาสที่ไม่ควรมองข้ามสำหรับผู้ประกอบการในการเข้ามาในธุรกิจ โดยเฉพาะสินค้าขนมขบเคี้ยวเพื่อสุขภาพจากผักและผลไม้ ที่มีจุดเด่นคือเป็นขนมขบเคี้ยวที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ สามารถทานได้ทุกที่ทุกเวลา น่าจะเป็นที่นิยมของผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น โดยผู้ประกอบการควรมุ่งเน้นการผลิตสินค้าที่มีความแตกต่างและตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ให้ความสำคัญกับมาตรฐานด้านคุณภาพและความปลอดภัยในทุกขั้นตอนการผลิต สร้างเครือข่ายธุรกิจและการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ ตลอดจนการขยายช่องทางการจำหน่ายที่มีศักยภาพ

เทคโนโลยีในการยืดอายุการเก็บรักษาผักและผลไม้ให้อยู่ได้นาน


ผักและผลไม้ เป็นผลิตผลทางการเกษตรที่สามารถนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ โดยอาศัยกรรมวิธีการผลิตที่หลากหลาย มีทั้งการนำไปผ่านกระบวนการแปรรูปเพียงเล็กน้อย หรือเพียงแค่ล้างทำความสะอาด และตัดแต่งเพื่อจำหน่ายแบบสด หรือนำไปผ่านกระบวนการแปรรูปโดยใช้ความร้อนสูง แล้วบรรจุในภาชนะเปิดสนิท เช่น กระป๋อง ขวดแก้ว และภาชนะพลาสติก

ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากผักและผลไม้นั้น ส่วนใหญ่จะใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพที่ใกล้เคียงหรือคล้ายคลึงกัน แต่เมื่อนำมาผ่านการแปรรูปโดยอาศัยกรรมวิธีที่แตกต่างกันแล้ว จะทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลาย และแตกต่างกันทั้งในด้านกลิ่น รส สี และลักษณะเนื้อสัมผัส อาทิเช่น หน่อไม้ฝรั่ง ถั่ว ลูกพีช ซึ่งเป็นผัก ผลไม้ ชนิดที่รับประทานได้ทั้งแบบสด ๆ และแบบที่ผ่านการแปรรูป จะเห็นได้ว่าผลิตภัณฑ์ทั้ง 2 แบบนี้ มีลักษณะที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน แต่ผู้บริโภคก็ให้การยอมรับทั้ง 2 รูปแบบ ขึ้นอยู่กับว่าผู้บริโภคนิยมบริโภคในรูปแบบใด เช่น ผู้บริโภคบางกลุ่มอาจนิยมบริโภคถั่วสด จะเลือกซื้อสินค้าถั่วสดแช่แข็ง ในขณะที่ผู้บริโภคบางกลุ่มนิยมบริโภคถั่วบรรจุกระป๋อง ก็จะเลือกซื้อเฉพาะสินค้าถั่วบรรจุกระป๋อง เป็นต้น ดังนั้นสินค้าผัก ผลไม้แปรรูปแต่ละประเภทจะมีตลาดรองรับที่แยกจากกันอย่างชัดเจน

การแปรรูปอาหารนั้นเป้าหมายหลักของผู้ประกอบการก็คือ การพัฒนากระบวนการผลิตที่ยังคงความสะดวก ไม่ยุ่งยาก ซับซ้อน แต่มีต้นทุนการผลิตต่ำ และมีการปรับปรุงคุณภาพของสินค้าให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ปัจจุบันทางเลือกหนึ่งของการผลิต และบรรจุสินค้าผัก ผลไม้สด ก็คือการใช้สารเคมีถนอมรักษา หรือช่วยชลอการสุก รวมทั้งช่วยคงคุณภาพของผัก ผลไม้สดหลังการเก็บเกี่ยวด้วย โดยการให้สารเคมีเข้าไปรบกวนการทำงานของเอทธิลีนซึ่งเป็นฮอร์โมนที่กระตุ้นกระบวนการที่ทำให้เกิดการสุกในพืช ในอดีตสารเอทธิลีนถูกนำไปใช้กับสินค้ากล้วย เพื่อทำให้สามารถจำหน่ายกล้วยในขณะที่มีกลิ่นรส และสุกงอมกำลังดี โดยเกษตรกรจำเก็บเกี่ยวกล้วย และทำการขนส่งไปยังปลายทางในขณะที่ผลกล้วยมีสีเขียว หรือยังไม่สุก เพื่อความสะดวกในการขนส่ง หลังจากนั้นจะนำกล้วยไปเก็บในห้องที่มีเอทธิลีนอยู่ เมื่อเอทธิลีนระเหยออกสู่บรรยากาศสัมผัสกับผลกล้วยดิบมันก็จะไปกระตุ้นให้กล้วยเกิดกระบวนการสุกในช่วงเวลาที่เหมาะสม พร้อมที่จะจำหน่าย

ปัจจุบันยังไม่มีความชัดเจนในด้านข้อมูลว่าในขณะเก็บรักษา ผัก และผลไม้ไว้เป็นระยะเวลานาน ๆ จะเกิดการเปลี่ยนแปลงในด้านกลิ่น รสชาติ ของผัก และผลไม้แต่ละชนิดอย่างไร เช่นเดียวกันกับที่จะต้องมีการพิจารณาและศึกษาถึงประโยชน์ของการประยุกต์ใช้สาร MCP ในพืชอาหารแต่ละชนิดต่อไป

นวัตกรรมกับผลไม้ไทยที่จะต้องสร้างคุณค่าใหม่ๆให้แก่สินค้า


เกษตรกรรมเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับประเทศไทย และวิถีชีวิตของคนไทยมาเป็นเวลายาวนาน แม้ปัจจุบัน จะมีกานำเอาอุตสาหกรรมต่างๆเข้ามาผลิตในประเทศไทย และ คาดหวังให้ประเทศไทยเป็นประเทศอุตสาหกรรม แต่เราก็มิอาจปฏิเสธได้ว่า สินค้าหลักของประเทศไทยยังคงเป็น สินค้าเกษตรกรรม

ปัจจุบันการแข่งขันการค้าของโลกได้ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ การที่จะสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้นั้น จำเป็นที่จะต้องสร้างคุณค่าใหม่ๆให้แก่สินค้า เพื่อให้เกิดความแปลกใหม่ และ สร้างความต้องการใหม่ๆให้แก่ลูกค้า เช่น บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ CP ได้ทำการปรับโครงสร้าง กระบวนการผลิต และการจัดจำหน่าย และ มุ่งสู่การพัฒนาการเกษตรให้อยู่ในรูปแบบเกษตรอัจฉริยะ โดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูงและการจัดการสมัยใหม่

ดังนั้นจึงมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์การเกษตรต่างๆให้มีคุณภาพที่ดีขึ้น เช่น ข้าวขึ้นน้ำไวต่อช่วงแสง (Photosensitive floating rice) ซึ่งเป็นการพัฒนาให้ข้าวสามารถอยู่ในพื้นที่นํ้าท่วมขังที่ระดับ 1-5 เมตร ได้เป็นระยะเวลา 1 เดือนเป็นต้น สิ่งที่พวกเราขอนำเสนอเป็นส่วนนึงของนวัตกรรมใหม่ๆที่เกิดขึ้นกับสินค้าเกษตรของไทย ดังนี้

นํ้าเต้าสี่เหลี่ยม บึงฉวาก
นํ้าเต้าสี่เหลี่ยมที่อุทยานผักพื้นบ้านเพื่อการยังชีพบึงฉวากเฉลิมพระเกียรติ อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี นายเชาว์ เสาวลักษณ์ ผู้อำนวยการอุทยานผักพื้นบ้านบึงฉวากเฉลิมพระเกียรติ อธิบายให้ฟังพร้อมโชว์น้ำเต้าสี่เหลี่ยมที่ทำแล้วเสร็จว่า “น้ำเต้ามีอยู่หลายชนิด มีรูปร่างลักษณะแตกต่างกันออกไป แต่ ที่สามารถนำมาทำเป็นน้ำเต้าสี่เหลี่ยม หรือน้ำเต้ารูปทรงเรขาคณิตได้มีน้ำเต้าอยู่จำนวน 3 ชนิด คือ น้ำเต้าพื้นบ้าน น้ำเต้าเน่งบาร์ และน้ำเต้าทรงลูกจันทร์ ซึ่งมีลักษณะเล็กและเหมาะสมเท่าที่ทดลองมาแล้ว ทั้ง 3 อย่างนี้ได้ผลดี”

วิธีการเริ่มต้นด้วยการปลูกเลี้ยงน้ำเต้าแบบสมบูรณ์ใช้ได้ทั้งปลูกในกระถาง หรือ ปลูกลงดินก็ได้ปลูกดูแลใส่ปุ๋ยไม่นานก็จะเริ่มออกผลเมื่อแน่ใจว่าติดผลแล้ว  จึงเลือกผลที่อยู่ในตำแหน่งเหมาะสม และ  ไม่มีแมลงรบกวน แล้วก็หากล่องรูปทรงเรขาคณิตตามชอบมาใส่ลูกน้ำเต้าแต่ต้องเป็นกล่องที่มีรูปร่างลักษณะใส ลองแบบทึบแล้วเน่าใช้ไม่ได้ต้องใส่ให้แสงแดดสามารถผ่านเข้าไปด้านในได้   อย่างกล่องใส่ผลไม้รูปร่างต่างๆ ที่มีวางขายอยู่ในท้องตลาด ต้องทำการเจาะรูระบายน้ำระบายอากาศได้ทั้งด้านบนและล่าง   เพื่อป้องกันเชื้อราและเน่าจากนั้นดูแลไปจนถึง 90-120 วัน แล้วแต่อายุและชนิดของพันธุ์น้ำเต้า เมื่อได้รูปตามลักษณะที่ต้องการจึงนำเอากล่องออกแล้วจะได้น้ำเต้าก็จะออกมาเป็นทรงตามกล่องที่ใส่

มะขามเปียก
การเก็บผลผลิตระยะสุดท้าย ของการขายมะขามยักษ์ ตลาดมีความต้องการมาก เพราะมะขามเปียกในประเทศไทย มีคุณภาพดีติดอันดับโลกเลย มะขามเปียกในปัจจุบันที่ชาวบ้านรู้จักคือนำไปทำอาหาร แกงส้ม ต้มยำน้ำพริก และ มะขามแก้ว น้ำมะขาม แต่ นอกเหนือจากนั้นมะขามเปรี้ยวนั้นสามารถนำไปสกัดเป็นกรด ทาทาร์ลิค และแพคติน ที่ได้จากธรรมชาติ นำไปใช้ในระบบอุตสาหกรรมทั่วโลกไม่ว่าจะเป็น เครื่อง ดื่ม โค้ก เป็ปซี่ กระทิงแดง ก็ใช้ตัวนี้ โรงงานฟอกหนัง เครื่องสำอาง สปา ยา สมุนไพร ต่าง และอีกมากมาย

มะขามเปียกมีตลาดส่งออกที่กว้างมากๆ และเป็นที่ต้องการในหลายๆประเทศ เพราะมีไม่กี่ประเทศที่มีสภาพอากาศและพื้นที่ที่สามารถปลูกมะขามได้ ตลาดส่งออกโดยเฉพาะตะวันออกกลาง จะเป็นตลาดที่ใหญ่มากๆ เพราะมะขามเปียกจำเป็นมากในประเทศทางตะวันออกกลางหรือแถบที่มีทะเลทรายเพราะ มีสภาพอากาศที่ร้อนและแห้งแล้ง เดินไปมาก็ต้องอยู่บนทะเลทราย มนุษย์เราคอแห้งไม่ได้ ฉะนั้นประชาชนของประเทศนี้ ถ้าเค้าต้องเอาน้ำติดตัวไป ตลอดก็ อาจมีภาระหรือลำบาก และน้ำอาจมีน้อยหรือไม่พอ เขาจึงใช้วิธีพก มะขามเปียกแทน